นายกินมาแล้ว กินตามสไตล์ปากใครปากมัน มีโอกาสได้แว๊ปไปกิน ร้านฮั่วเซ่งฮง ริมถนนราชพฤกษ์ ร้านที่มีตำนานหลายสิบปี
ที่มาเปิดใกล้วงเวียนบางขุนกอง จังหวัดนนทบุรี กินจะไปหาอะไรกิน เราไปอ่านประวัติของร้านเค้าหน่อยไหม
“ฮั่วเซ่งฮง” เป็นหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่นิตยสารโลนลี แพลนเน็ต ทราเวลเลอร์ ประเทศไทย ยกให้เป็นร้านอาหารระดับตำนาน ที่เปิดมานานกว่าครึ่งศตวรรษในย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์ของเมืองไทย ที่ถือเป็นแหล่งรวมอาหารการกินอันเลื่องชื่อ ร้านอาหารฮั่วเซ่งฮง ถูกสืบสานจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นคัดสรรสิ่งที่ดี มีคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคาให้กับลูกค้า จากจุดเริ่มต้นในเยาวราชจนถึงขณะนี้ เรามีสาขาในไทยถึง 15 สาขา มีความอร่อยที่หลากหลายให้เลือกสรรกว่า 200 เมนู ด้วยอาหารทั้งจีน ไทย ซีฟู้ด หม้อไฟ อาหารจานเดียว จนถึงบะหมี่ฮ่องกง และติ่มซำ พร้อมให้คุณมาพิสูจน์ความอร่อยในร้านอาหารระดับตำนานด้วยตัวคุณเอง [ http://huasenghong.co.th/about-us/%5D
กลับมาที่ส่วนของ นายกินมาแล้ว ต้องบอกว่าร้านฮั่วเซ่งฮง สาขาราชพฤกษ์ ถ้าไม่สังเกตหรือเคยมากินอาจจะขับเลยกันก็ได้ ใครจะมาให้ขับเลยห้างเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ประมาณ 500 เมตร ก็สังเกตซ้ายมือได้เลย
( ภาพหน้าร้าน ของยืมจากร้านมานะจ๊ะ )
เปิดเมนู …
เปิดจานแรก .. เป็ดย่าง หมูกรอบ หมูแดง
จานนี้ต้องว่า ทางร้านจัดมาให้ใหญ่มาก เหมาะกับทาน 3-4 คน หมูกรอบ เรียกว่ากรอบจริง ระหว่างที่หนังหมูถูกฟันเราบดขยี้เรียกดังกรุบกรอบ ชัดเจนดี
หมูแดง ร้านนี้หมักมาได้นุ่มลิ้นมาก เนื้อหมูแน่นๆ แต่ไม่เหนียว ผู้สูงอายุพอทานได้
ส่วนเป็ด เนื้อเอาแน่นดีไม่ร่วน กินได้เต็มคำ
โดยรวมเนื้อหมู,เป็ด จัดว่าดี แต่มาเสียคะแนนตรงน้ำราดนี้แล รสชาติออกแปลกๆไม่คุ้นลิ้น ทั้งที่เราเคยกินเป็ดย่างมาก็หลายเจ้า แต่เจ้านี้น้ำราดเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ไม่เหมือนใคร แต่นายกินมาแล้ว ต้องบอกว่า ขอผ่าน
จานที่สอง .. เส้นใหญ่ราดหน้าผัดเต้าซี่ปลากะพง
เมนูเก่าแก่ของร้านที่เรียกว่า มาเมื่อไหร่ต่องกิน ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ขนาดคำโตๆ ผัดมาให้ชนิดเหนียวๆ หนุ่นๆ ปลากะพงเนื้อแน่นเอาไปชุดแป้งบางๆแล้วทอด นำมาวางบนจาน แล้วราดด้วยเครื่องปรุงที่ผัดด้วยเต้าซี่ ซีอิ้ว แถมมีกลิ่นพริกไทยดำบางๆ อารมย์นี้ผู้อาวุโสได้ทาน คงจะนึกถึงภาพวันเก่าๆ
จานที่สาม .. ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู
เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ค่อนข้างหนาห่อไส้ที่ด้านใน มีให้มาเป็นเนื้อปู (ชิ้นไม่โตนัก) เห็ดหอม หอมซอย กับน้ำราดที่ข้นด้วยซีอิ้วหวาน โดยรวมก็โอเค พอทานแก้อยากได้ ระหว่างกิน ก็นึกในใจพรางๆ ถ้าให้พริกน้ำส้มมาด้วย คงจะดีไม่น้อย
จานที่สี่ .. เนื้อสันผัดน้ำมันหอย
วันที่มากิน จานนี้ชอบสุด เนื้อสันวัวที่หมกมาเต็มที่ ความนุ่มของเนื้อ พลันนึกถึงวัวน้อย ยืนฟังเพลงคลาสสิค ข้างตัวมีถังเบียร์ไว้คอยประโลมใจ ก่อนที่จะ… โอ้ว !!
คือเนื้อมันนุ่มจริงๆ ร้านหั่นมาให้ชิ้นโตพอคำ ผัดกับน้ำมันหอยใส่เห็ด ใส่ขิงตัดกลิ่น เครื่องปรุงที่ใส่มาเค็มที่ รสชาติออกทางเค็มหน่อย แต่กินกับข้าวสวยอร่อย หรือกินเปล่าๆ แกล้มเครื่องดื่มก็พอไหว
จานนี้ใครทานเนื้อ ไม่อยากให้พลาด..ต้องลอง
จานที่ห้า .. ข้าวผัดปลาเค็มหมูแดงพริกขี้หนูสวน
จานนี้ต้องบอกว่าพ่อครัวฝีมือการผัดได้ละเอียดมาก ข้าวทุกเม็ดเป็นสีเหลืองไม่มีสีขาวแทรกเข้ามาเลย รสชาติปลาเค็มอาจจะให้มาน้อยไปหน่อย หมูแดงหั่นมาน้อยไปนิด รสขาติจะออกไปโทนจืด แต่ได้พริกขี้หนูสวน เข้ามาช่วยเสริมรสชาติให้มีความเผ็ดแทรกเข้ามา จานนี้ให้กลมกล่อมต้องไม่ขาดด้วยพริกน้ำปลา ตักมาหยอดลงไปเลย คลุกเคล้าให้ทั่ว กินอร่อยนะ
อ้อ !! เกือบลืม ข้างจานทางร้านมีพริกขี้หนูซอย มะนาว หอมแดง วางแซมมาเพิ่มความเผ็ดร้อน
อิ่มแล้ว !! พอเท่านี้ก่อน ให้กระเพาะได้ทำงานย่อยให้เต็มที หลังจุดไปกินเจกว่าสิบวัน ส่วนคราวหน้า นายกินมาแล้ว จะพาไปกินอะไร คอยติดตามกันนะ … บายยย
นายกินมาแล้ว 